วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ISO 27001 มาตรฐานความปลอดภัยสารสนเทศที่คุณต้องใส่ใจ
เมื่อประเด็นความปลอดภัยสารสนเทศกลายเป็นมาตรฐานโลก ถึงเวลาที่องค์กรต้องหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้กันแล้ว
เราหลายคนรู้จัก ISO หรือมาตรฐานที่กำหนดและควบคุมโดยองค์การนานาชาติเพื่อระบบมาตรฐาน (International Organization for standardization) กันมานานแล้ว โดย ISO เป็นที่รู้จักและให้ความสำคัญกันมากในวงการอุตสาหกรรม แต่ปัจจุบัน ISO กำลังก้าวสู่วงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น ด้านสิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมการผลิต (ISO 14001) , การพัฒนาผลิตภาพหรือ Productivity Improvement (ISO 9400: 2000),
มาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการประมวลผลแบบกระจายตัวมาตรฐานเปิด หรือ Open Distributed Processing (ISO 14750) หรือแม้กระทั่งมาตรฐานกลางเพื่อภาษา XML สำหรับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ebXML (ISO 15000)
จะเห็นได้ว่ามาตรฐานตามกรอบของ ISO นั้นมีความละเอียดและครอบคลุมหลายวงการมากมาย จนหลายครั้งคนนอกวงการธุรกิจอุตสาหกรรมนั้นๆ อาจจะไม่รู้จักมาตรฐานนั้นมาก่อนเลยก็เป็นไปได้ และหลายครั้งแม้แต่มาตรฐานที่เกี่ยวโยงกับอุตสาหกรรมใดๆ ก็อาจจะไม่ได้เป็นที่รับรู้หรือใส่ใจเพราะไม่ได้มีผลในทางปฏิบัติที่กระทบ ต่อการค้าขายหรือทำธุรกิจนั้นๆ โดยตรงกับบริษัทในหมู่คู่ค้าและลูกค้า
แต่มาตรฐานหนึ่งที่ในปัจจุบันกำลังกลายเป็นมาตรฐานระดับโลกที่จำ เป็นต่อทุกองค์กรก็คือ ISO 27001 ทั้งนี้ก็เพราะปัญหาและความเสี่ยงที่เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งทั้งเรื่อง ข้อมูลสถานพยาบาล สถาบันการเงินและภาครัฐรั่วไหล และกรณีการทุจริตครั้งใหญ่ที่ส่งผลต่อภาคการเงินอย่างรุนแรง เช่นกรณีของ Enron และ Worldcom ซึ่งทำให้มีการออกกฎหมายความโปร่งใสด้านการบัญชี เช่น Sabarnes-Oxley Act ขึ้นมาในอเมริกาในเวลาต่อมา
ซึ่งแน่นอนว่านอกเหนือจากกระบวนการด้านบัญชีและการตรวจบัญชีนั้น ย่อมเกี่ยวโยงกับระบบสารสนเทศอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้ และเช่นนั้นเองที่ทำให้ ISO มีการร่างมาตรฐานด้านการบริหารความปลอดภัยสำหรับสารสนเทศออกมาซึ่งก็คือ ISO 27000 ทั้งนี้รายละเอียดสำหรับกระบวนการพัฒนาและใช้งานการบริหารความปลอดภัย สารสนเทศ (ISMS) นั้นก็คือรายละเอียดของ ISO 27001 ที่เรากำลังจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกันในบทความนี้
มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ
ISO 20000 – เน้นเรื่องการบริหารบริการไอที
ITIL – เฟรมเวิร์กระดับล่างลงไปสำหรับการบริหารบริการไอที (ITSM – IT Service Management)
ISO 17799 / ISO 27001 – เน้นเรื่องการบริหารข้อมูลสารสนเทศ
Six Sigma – มีเนื้อหาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภาพการปฏิบัติการและการบ่งชี้ข้อบกพร่องในการทำงาน
COBIT – เฟรมเวิร์กสำหรับความเสี่ยงด้านการบริหารข้อมูลสารสนเทศไอที
Balanced Scorecard – มีเฟรมเวิร์กสำหรับตรวจวัดกิจกรรมของบริษัทในเรื่องวิสัยทัศน์และกลยุทธ์
Prince 2 – วิธีการบริหารโครงการไอที
มาทำความรู้จักกับ ISO 27001
ISO 27001 คือแนวทางหรือวิธีการเกี่ยวกับเรื่องความเสี่ยงด้านสารสนเทศเพื่อการกำหนด นโยบาย และกระบวนการทำงาน รวมทั้งเพื่อเลือกการควบคุมที่เหมาะสมในการบริหารความเสี่ยงด้วย กล่าวได้ว่าเป็นมาตรฐานเชิงระบบที่เน้นการปฏิบัติ จึงสามารถนำไปใช้อ้างอิงเพื่อการประเมินและขอรับการรับรองมาตรฐานต่อไปได้
ในขณะที่ ISO 20000 นั้นเน้นเรื่องการบริหารบริการไอที แต่ ISO 27000 และ ISO 17799 จะเน้นเรื่องการบริหารข้อมูลสารสนเทศโดยตรง
ข้อแตกต่างระหว่าง ISO 17799 กับ ISO 27001 ก็คือ
1. ISO 27001 เน้นเรื่องรายละเอียดเชิงเทคนิคมาตรฐานสำหรับการบริหารความปลอดภัยด้าน สารสนเทศ ISMS (Information Security Management System) โดยเป็นรายละเอียดแบบมุ่งเน้นกระบวนการตามหลักการ PDCA (Plan-Do-Check-Act Process focused) สามารถใช้เป็นเกณฑ์เพื่อนำไปใช้งานจริง (Implement) และขอการรับรองได้
2. ISO 17799 เป็นรายละเอียดการดำเนินการ (code of practice) เพื่อการควบคุมด้านความปลอดภัย (Security control) ต่อมาได้ถูกนำไปโยงความสัมพันธ์กับ ISO 27000 ซึ่งครอบคลุมเรื่องความปลอดภัยสารสนเทศทั้งหมดและถูกเรียกรหัสใหม่เป็น ISO 27002
อาจกล่าวได้ว่า ISO 27001 นั้นเป็นส่วนขยายเพิ่มของ ISO 17799 เพื่อให้ครอบคลุมรายละเอียดในเชิงระบบทั้งหมด ( โดยที่เดิมทีนั้น ISO 27001 มีชื่อเรียกว่า BS7799-2) และ ISO 27001 จะแสดงหลักการนำเอา code of practice เรื่องความปลอดภัยมาใช้งานจริงโดยเสนอภาพรวมการทำระบบบริหารและควบคุมความ ปลอดภัยสารสนเทศแบบบนลงล่าง (Top down) เริ่มตั้งแต่การวัดผล ติดตามตรวจสอบและควบคุมการบริหารความปลอดภัย ISO 27001 จึงเป็นรายละเอียดที่องค์กรไอทีจะต้องใช้เพื่อพัฒนาระบบบริหารความปลอดภัย สารสนเทศเพื่อขอใบรับรอง (Certification) ต่อไป
สิ่งที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ ISO 27001
แม้ว่าดูเหมือนสหรัฐฯ และ ISO น่าจะเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลสารสนเทศก่อนที่ อื่นๆ ด้วยเหตุผลจากคดีฉ้อโกงและการเป็นผู้นำในมาตรฐานระดับโลกตามลำดับ แต่แท้จริงแล้ว ISO 27001 นั้นเริ่มต้นจากการพัฒนามาตรฐานที่มีชื่อว่า BS 7799-1 ( ปี 1995) โดยหน่วยงานมาตรฐานของอังกฤษ (British Standard Institute) ซึ่งต่อมา BS7799-1 กลายเป็น ISO 17799 ( ปี 2000) ก่อนจะขยายในส่วนของ BS7799-2 ( ปี 2002) ครอบคลุมเรื่องระบบบริหารความปลอดภัยสารสนเทศและกลายเป็น ISO 27001 ในเวลาต่อมา โดย ISO 17799 ได้เปลี่ยนรหัสเรียกมาเป็น ISO 27002
รายละเอียดในภาพรวมของ ISO 27001 ประกอบด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่
• กำหนดนโยบายด้านความปลอดภัย
• กำหนดขอบเขตของระบบบริหารความปลอดภัยสารสนเทศ (ISMS)
• รายละเอียดการประเมินความเสี่ยง
• การบริหารความเสี่ยง
• เลือกวัตถุประสงค์ในการควบคุมและวิธีการควบคุมที่จะนำไปใช้งานจริง
• จัดเตรียมคำอธิบายสำหรับการปฏิบัติงานจริง
ที่มาของความสำคัญสำหรับ ISO 27001
หัวใจสำคัญของระบบบริหารความปลอดภัยสารสนเทศนั้นอยู่ที่ 3 ปัจจัยหลักโดยพื้นฐานดังต่อไปนี้
1.ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลสำคัญขององค์กร
การรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลไม่ให้ถูกขโมย ลักลอบนำไปใช้ ดัดแปลง หรือทำให้เกิดข้อผิดพลาดอื่นใด ซึ่งสำหรับหลายหน่วยงานอาจเป็นอันตรายระดับวิกฤติได้ ซึ่งข้อมูลนี้ไม่เพียงเฉพาะข้อมูลสำคัญขององค์กรแต่ยังรวมถึงข้อมูลส่วนตัว ของลูกค้าหรือบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วย
2.การบริหารความเสี่ยงจากเหตุการณ์และปัจจัยต่างๆ
การบริหารความเสี่ยงจากเหตุการณ์และปัจจัยต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีการคำนึงถึงการตั้งไซต์สำรอง ในลักษณะของศูนย์สำรองข้อมูลและดำเนินการกู้คืนระบบภายหลังภัยพิบัติหรือ Disaster Recovery Center (DRC) ซึ่งมีความสำคัญมากในหลายธุรกิจเช่น ธุรกิจการเงิน หรือบริการด้านสุขภาพ เพราะข้อมูลเหล่านั้นมีความสำคัญยิ่งยวดต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจให้ ต่อเนื่องต่อไปได้ (Business continuity)
3.บริหารระบบเพื่อป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล
รายละเอียดการบริหารระบบเพื่อป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งหัวข้อนี้นับเป็นหนึ่งในรายละเอียดหลักของเนื้อหาในร่างมาตรฐาน ISO 27000 ทั้งหมดก็ว่าได้ โดยครอบคลุมตั้งแต่นโยบาย แผน กลยุทธ์ การตรวจวัด การบริหาร และการควบคุมการปฏิบัติการ
ปัจจัยในการพิจารณาความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ
ความลับของข้อมูล (Confidentiality)
ความถูกต้องสมบูรณ์ของข้อมูล (Integrity)
ความพร้อมใช้งานของข้อมูล (Availability)
การยืนยันตัวตนของผู้ใช้ (Authentication)
การควบคุมสิทธิในการใช้งานของผู้ใช้ (Authorization)
การไม่สามารถปฏิเสธการกระทำ (Non repudiation)
การดำเนินการสำคัญสำหรับ ISO 27001 ในทางปฏิบัติ
แผนความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ หรือ BCP (Business Continuity Plan)
เนื่องจากสารสนเทศเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ การมีแผนการรองรับเพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจจะดำเนินต่อไปได้ไม่ว่าจะตกอยู่ใน สถานการณ์ใด ๆจึงเป็นหัวข้อสำคัญหัวข้อหนึ่งในการดำเนินการ ISO 27001
แผนกู้คืนระบบและข้อมูลหลังหายนะภัย หรือ DRP (Disaster Recovery Plan)
การเกิดหายนะภัยกลายเป็นหัวข้อสำคัญหัวข้อหนึ่งในปัจจุบัน หลังจากที่เราได้เห็นถึงความเสี่ยงจากภัยพิบัติธรรมชาติที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนในเรื่องนี้อย่างละเอียด
การบริหารการกู้คืนระบบหลังหายนะภัยหรือ DRM (Disaster Recovery Management)
หลังจากการวางแผนเรื่องการกู้คืนระบบหลังหายนะภัยแล้วจะต้องมีการประชุมวางแผนและทบทวนขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ ในระดับบริหาร
การปฏิบัติการเพื่อการกู้คืนระบบหลังหายนะภัย หรือ DRO (Disaster Recovery Operation)
เมื่อฝ่ายบริหารมีการซักซ้อมขั้นตอนการดำเนินการแล้วจะต้อง มีการจัดทำรายละเอียดและแจ้งแก่ส่วนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะต้องซักซ้อมการปฏิบัติการเสมือนในเหตุการณ์จริงด้วย
ISO 27001 สำคัญแค่ไหนในประเทศไทย
ในปัจจุบันธุรกิจหลายแห่งถูกบังคับให้ต้องดำเนินการตาม มาตรฐานของ ISO 27001 ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ท้งนี้ก็เพราะกฎหมายและระเบียบบังคับจากภาครัฐหลายแห่งก็มีข้อกำหนดเรื่อง การป้องกันความเสี่ยงด้านสารสนเทศออกมาแล้ว เหลือแต่เพียงการบังคับใช้ในอีกหลายประเทศ
สำหรับในประเทศไทยเน้นการกำหนดกฎของธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่องการ ป้องกันความเสี่ยงของข้อมูลสถาบันการเงิน โดยกำหนดให้สถาบันการเงินต้องมีศูนย์แหล่งข้อมูลสำรองและระบบกู้คืนข้อมูล หลังภัยพิบัติ (DRC – Disaster Recovery Center ) เงื่อนไขนี้ถูกกำหนดมาพักหนึ่งแล้วแต่เนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจจึงได้รับ การผ่อนผันเรื่อยมา รวมถึงความชะล่าใจของบริษัทหลายแห่งที่มองว่าความเสี่ยงจากหายนะภัยในประเทศ ไทยนั้นมีค่อนข้างต่ำเทียบกับแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นหรือพายุเฮอริเคนในสหรัฐ อเมริกา
อย่างไรก็ตามเนื่องจากประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก ความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยสารสนเทศระดับโลกคงจะมา ถึงในไม่ช้า โดยเฉพาะเมื่อธุรกิจหรือองค์กรแห่งนั้นต้องทำงานร่วมกับบริษัทระดับนานาชาติ ด้วย
โดยภาพรวมมีองค์กรในประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง มาตรฐาน ISO 27001 โดยหน่วยงานแรกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 27001: 2005 คือสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ ( สบทร. หรือ GITS) เมื่อปี 2549 ส่วนองค์กรอื่นๆ ก็ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง, ศูนย์ข้อมูลเครดิต, CAT Telecom, AEON, Fujitsu System Business, สวทช.(สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) , สามารถ คอร์ปอเรชั่น, สหประชาชาติ, Siemens True และ UIH เป็นต้น
ด้วยปัจจัยทั้งหลายที่เราได้เห็นกันแล้วเราจึง สรุปได้ว่า ISO 27001 ไม่ใช่เรื่องเกินความจำเป็นแต่อย่างใดในปัจจุบัน นี่คือสิ่งที่ทุกองค์กรต้องหันมาใส่ใจเพื่อความมั่นคงยั่งยืนและลดความ เสี่ยงของกิจการที่อาจกลายเป็นหายนะของธุรกิจคุณได้หากเผลอละเลยไป